ผู้ใดก็ตามที่เกิดสัมมาทิฏฐิ ผู้นั้นจะไม่ทำผิดอีก เพราะเขารู้จริง ๆ เเล้วว่าสิ่งที่กระทำเป็นยังไงเเล้วคืออะไร เเล้วอะไรคือที่มาของสัมมาทิฏฐิ
คอร์สมัคคานุคาทั้งหมดถึงได้ปูพื้นฐาน ที่คำว่าพื้นฐานไม่ใช่สำหรับคนเบื้องต้นนะ มันเป็นพื้นฐานหรือฐานราก คนมักจะรู้สึกว่า คอร์สพื้นฐาน “โถ่! ฉันปฏิบัติมา 5 ปี 10 ปีแล้ว ทำไม่ต้องมาเข้าคอร์สพื้นฐาน” จนเดี๋ยวนี้ทุกคนที่มาเข้าคอร์สปฏิบัติมักจะบอกคนอื่นว่าจะกี่สิบปีก็ตาม ยังไงก็ต้องเข้าอันนี้ก่อน ไม่งั้นไปตรงไหนก็ฟังไม่รู้เรื่อง บางคนปฏิบัติมานาน ๆ ก็เลยขอเข้าคอร์สเข้มเลยก็ฟังไม่รู้เรื่อง ถึงรู้เรื่องก็รู้เรื่องผิดทาง
เพราะคำว่าพื้นฐานมันคือฐานรากที่ตอกเสาเข็มแล้วแพ็คไว้อย่างแน่นเพื่อจะสร้างสิ่งนี้ให้ถูกต้องต่อไป
ดังนั้นสัมมาทิฏฐิมาจากอะไร
๑. ต้องรู้ว่าอะไรคือกุศลอะไรคืออกุศลก่อน ถ้ากุศล-อกุศลยังไม่รู้เลย เเล้วมันจะทำยังไงกันต่อไป
๒. รู้ว่าทำกุศลผลเป็นกุศล ทำอกุศลผลเป็นอกุศล ทำบาปทำชั่วผลก็ต้องเป็นบาปเป็นชั่วเป็นคนเลว
เพราะฉะนั้นคำที่ท่านพุทธทาสพูดให้ฟังก็คือว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วไม่มีหรอก นั้นพาผิดทางเเล้ว
งง!
เเปลว่าอะไร ก็พูดอย่างนี้กันมาตลอด ท่านเลยบอกว่าก็เพราะความเข้าใจอย่างนี้เเหละที่ทำให้เด็กรุ่นใหม่วันนี้ถึงได้สับสนกันอุตลุด ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว จนเป็นที่มาของคำว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป เพราะเขาเริ่มรู้สึกว่าทำไมคนชั่วโกงบ้านกินเมืองหรือว่าคนชั่วที่เห็น ๆ กันอยู่ ทำไมกลับได้ดี นี้ไงมันเลยดิ้นไปผิดทางเลย เพราะความเข้าใจที่ผิดนี้แหละ
ท่านจึงบอกเลยว่า ทำดี ดี! ทำชั่ว ชั่ว!
ทำชั่ว ชั่ววินาทีที่ทำเลยไม่ต้องไปรอได้ชั่วชาติไหนทั้งนั้น คนทำชั่วมันชั่ววินาทีที่ทำ ไม่มีต้องรอได้ชั่ว มันชั่วเลย
ถ้าคนทำดีก็ไม่ต้องรอได้ดีชาติไหนเหมือนกัน ดีวินาทีที่กำลังทำนั้นแหละ ส่วนผลมันจะเป็นยังไงต่อไปวิบากกรรมจะเป็นยังต่อไปนั้นเป็นคนละเรื่อง
ถ้าไปนั่งรอดูวิบากของคนที่ทำบาปทำชั่วมันถึงได้เกิดคำว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป
เพราะฉะนั้นวันนี้พอเราเข้าใจ เราก็จะได้เข้าใจเรื่องของกุศล อกุศล
อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
เนื้อหาส่วนหนึ่งจากคอร์ปปฏิบัติธรรม “หมดเปลือก”
สามารถดูคลิปวีดีโอคอร์สนี้ได้ที่นี่
https://youtu.be/HwqZyMNzIFs?list=PLh9Sm2EK19nRzsYnsXGGGbkbPTsoCPSvd