(การ์ดคำสอน) เพราะไม่ได้หวังจะได้อะไรตอบแทน

ไม่ยึดติดในกันเเละกัน ทำดีทุกๆ อย่างให้กับทุกคน
เเต่ไม่เคยหวังผลว่าจะต้องได้อะไรตอบเเทน “เเม้เเต่ความรักตอบ”
ถ้าอย่างนี้ก็ไม่มีทางทุกข์ใช่ไหม

เเต่ถ้าคนที่เขาได้รับความรักความปรารถนาดีที่เรามอบให้
เเละเขาสัมผัสได้ถึงความดี เเล้วเขารักตอบหรือตอบเเทนความดีมา
ก็เป็นเรื่องดีที่ตัวผู้นั้นเองเขาจะเกิดกุศลจิตขึ้น
ส่วนเราก็เพียงอนุโมทนาที่เขาได้เข้าใจในความดี ก็เเค่นั้นเอง

ไม่ได้อยากได้อะไรอีกเเล้วเเม้เเต่ความดีหรือบุญ
เพราะนั่นก็เป็นเหตุให้เกิดทุกข์อยู่ดี

อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
เนื้อหาส่วนหนึ่งจากหนังสือ “ดูจิตหนึ่งพรรษา”

(การ์ดคำสอน) มิตรภาพบนความถูกต้อง

อย่าให้ชัยชนะมันขึ้นมายิ่งใหญ่
เหนือความถูกต้องหรือความเป็นเพื่อน
ต่อให้เพื่อนของเราทำผิดพลาด
เราจะรับผิดชอบมันไปด้วยกัน ให้กำลังใจเพื่อน
ไม่ว่าเพื่อนจะทำสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ให้กำลังใจ
เกมทุกเกมไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่มีเกมไหนเป็นเรื่องใหญ่
หรือไม่มีเกมไหนที่จะใหญ่กว่ามิตรภาพหรือความถูกต้อง
อย่าทิ้งเพื่อนเพียงเพื่อชัยชนะ
จำไว้ ไม่งั้นวันหนึ่งเราจะไม่มีเพื่อนอีกเลย
อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
โอวาทในคอร์สปฏิบัติธรรม
มัคค์น้อยแฟมิลี่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๗

สามารถดูธรรมบรรยายนี้ได้ที่คลิปนี้
http://www.youtube.com/watch?v=bMRZLyo6SP4

สาเหตุของความทุกข์ เพราะเราไม่ยอมรับความจริงเอง

สาเหตุของความทุกข์ เพราะเราไม่ยอมรับความจริงเอง
ความทุกข์ทุกอย่างเนี่ย ผมบอกให้เลยว่ามันเกิดขึ้นมาได้จากสาเหตุเดียวคือ เราไม่ยอมรับความจริง
วันนี้เราบอกว่า เกิด เเก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา ถูกไหม มันต้องเกิดกับทุกคนเป็นธรรมดา เเต่หากว่าคนที่เรารักเสียชีวิต เราทุกข์ไหม? ทุกข์
ไหนเราบอกว่าเป็นธรรมดาไง (ใช่มันธรรมดาเเต่ฉันก็ทุกข์นั้นแหละ เพราะฉันสูญเสียคนที่ฉันรัก)
ทีนี้ในเมื่อเรารู้อยู่เเล้วว่าทุกคนต้องตาย เราเองก็ตาย คนรักเราก็ตาย ใครๆ ก็ต้องตาย เเต่วันที่เกิดกับคนของเรา คนรักของเรา เราต้องอาศัยเวลา สมมุติว่าสามเดือนทำใจ พอครบสามเดือนเราอาจจะดีขึ้นหรือหายทุกข์เเล้ว หายเศร้าเเล้ว
เพราะมันทำใจได้
ผมจึงอยากจะถามว่าช่วงเวลาสามเดือนที่ทำใจนั้น ทำไมบางคนทำใจเจ็ดวัน บางคนทำใจปีนึง บางคนห้าปีเเล้วก็ยังทำใจไม่ได้ ถ้าเราเอาช่วงเวลานั้นออกหมดเลย ถ้าวินาทีเดียวปกติเลยได้ไหม
ที่บอกว่าเราทำใจได้เเปลว่าอะไร เราเริ่มยอมรับความจริงได้เท่านั้นเอง
ถ้าเรายอมรับความจริงได้ตลอดเวลา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ที่เเน่ๆ ทุกข์จะหายไปมากกว่าครึ่ง วันนี้เเค่เราไม่ยอมรับความจริงเท่านั้นเอง
ความทุกข์ทุกอย่าง มันเกิดขึ้นมาจากสาเหตุเดียว คือ เราไม่ยอมรับความจริง
เนื้อหาส่วนหนึ่งจาก บทสัมภาษณ์ “อ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม”
ในรายการ “ธรรมในใจ” ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ออกอากาศ วันที่ 6 เมษายน 2556
สามารถดาวโหลดฟังคลิปเสียง mp3 บทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม ที่นี่
มีอีกหลายหัวข้อ หลายประเด็น ที่น่าฟังอยู่ในคลิปเสียงนี้
https://dhammaway.files.wordpress.com/2014/10/interview-buddhism-dhamma-in-mind.mp3
หรือสามารถดูคลิปวีดีโอรายการสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่นี่
ตอนที่ 1 : http://www.youtube.com/watch?v=3HDu63sVKjw
ตอนที่ 2 : http://www.youtube.com/watch?v=s1Ju_RSJBCM
ตอนที่ 3 : http://www.youtube.com/watch?v=aUz-_D6siLE
ตอนที่ 4 : http://www.youtube.com/watch?v=bL1UeeFpEvM

จงมีชีวิตเพื่อผู้อื่น ทำความดีจนพ้นจากดีไป

รัก..ร้อน ผูกพัน ยึดมั่น ปรารถนา ต้องการ ซึ่งนั่นนำไปสู่ทุกข์
เมตตา..กรุณา มุทิตา อุเบกขา เย็น สงบ ไม่ลำเอียง ให้แล้วสงบ สุข
เมื่อถอดถอนอุปาทาน เกิดสัมมาทิฏฐิ ความรักจะกลายเป็นความเมตตา
เป็นการให้โดยส่วนเดียว ไม่หวังผล ไม่ว่าจะ ลูก สามี ภรรยา ครอบครัว
เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมทาง เพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย
เราจะเป็นผู้ให้โดยส่วนเดียว ทำดีที่สุดในทุกๆ เวลาที่ทำให้ได้
เราให้โดยส่วนเดียวและทำอย่างดีที่สุด

“จงมีชีวิตเพื่อผู้อื่น ทำความดีจนพ้นจากดีไป
แต่ไม่เลิกกระทำความดีเพื่อทุกคน”

อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
ข้อคิดมุมมอง เพื่อปัญญา

อย่าให้ความรู้สึกว่าเป็นหน้าที่มาบดบังความดีของเขา

prasert-utaichalerm
อย่าให้ความรู้สึกว่า “นั่นเป็นหน้าที่” ของคนๆ นั้น มาบดบังความดีของเขาเหล่านั้น
สามีดูแลภรรยาและลูก ภรรยาก็มองว่า “มันเป็นหน้าที่ของพ่อ” จบกัน
ภรรยาทำดีกับสามีและลูก แต่กลับคิดว่า “มันเป็นหน้าที่ของภรรยาหรือแม่” อ๋อนี่ทำเพราะหน้าที่ ไม่มีหัวใจปนเลยหรือ?
ลูกน้องทำงานด้วยความมุ่งมั่นขยันขันแข็ง “เขากินเงินเดือน ก็ต้องทำงาน ก็ถูกแล้ว”
นี่คือคนที่หัวใจไม่มีธรรม อย่าให้โมหะเข้าครอบ หากมีความคิดอย่างนี้ แสดงว่าเกิดความเป็นตัวตนแล้ว ต้องชำระความเห็นผิดเสีย ถ้าตัวตนของเราลดลง จะเห็นคุณงามความดีของผู้อื่น จะเห็นเข้าใจผู้อื่น
“คนทุกคน คือคนคนเดียวกัน”
นี่คือคำของท่านอาจารย์พุทธทาส
เราไม่ชอบให้ใครด่าใครว่า คนอื่นเขาก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน
เราพลัดพรากจากสิ่งที่เรารัก เราเป็นทุกข์ คนอื่นก็เหมือนกัน
เรารักลูกเราอย่างไร เด็กๆ ที่เราเห็นทุกคนนั้น พ่อแม่เขาก็รักลูกของเขา เหมือนอย่างที่เรารักลูกเราเหมือนกัน
เรารักพ่อแม่เราอย่างไร คนแก่ที่กำลังเดินลงบันได ถ้าเป็นพ่อแม่เรา เราคงเข้าไปประคอง ดังนั้นเราจะรีบเข้าไปประคองดูแลอย่างไม่ลังเล
เห็นใครๆ ในโลกก็อยากจะเข้าไปช่วย เข้าไปดูแล เห็นอกเห็นใจ นี่ล่ะที่เรียกว่า “จิตเป็นกุศล” เมื่อนั้นเราจะไม่ได้ทำเพราะว่ามันเป็นหน้าที่ แถมเราจะนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่ามันเป็นหน้าที่ หน้าที่อะไร เพราะเราทำสิ่งนั้นจากหัวใจ คำว่า “หน้าที่” นั้น เป็นบทบัญญัติที่เกิดตามมาทีหลัง จากคนที่เห็นคนทำด้วยหัวใจ มาบัญญัติให้คนไม่มีหัวใจทำตาม
อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
เนื้อหาส่วนหนึ่งจากหนังสือ เห็นถูกรู้แจ้ง เล่ม ๓

ดาวโหลด อ่านหนังสือ PDF ได้ที่นี่
https://makkanuka.files.wordpress.com/2015/02/know-the-truth-see-the-truth-3.pdf

หรืออ่านในรูปแบบหนังสือเล่ม สามารถซื้อได้ที่
http://suanyindee.lnwshop.com/product/4/เห็นถูกรู้แจ้ง-๓